เพื่อนๆ เคยเป็นกันไหมคะ หูฟังแบบแจ็คที่ใช้อยู่สายระโยงระยางจนรำคาญ เวลาเก็บก็ยุ่งยาก ดีไม่ดียังพันกันยุ่งเหยิงอีก แถมไม่กันเหงื่อและไม่มีฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนให้ด้วย นอกจากนี้ ยังใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้เพียงไม่กี่อย่าง ทำให้การใช้งานขณะเดินทางหรือใช้ขณะออกกำลังกายก็ไม่สะดวก ถ้าใครเบื่อปัญหาเหล่านี้ล่ะก็ วันนี้ เราขอแนะนำให้รู้จักกับ "หูฟัง Bluetooth" เลยค่ะ ซึ่งเมื่อพูดถึงหูฟัง Bluetooth แล้วล่ะก็ แบรนด์ที่โดดเด่นมากที่สุด ก็คือ "SONY" นั่นเอง เพราะเป็นผู้นำในเรื่องเสียงโดยเฉพาะ และในหลายปีมานี้ยังได้พัฒนาสินค้าออกมามากมายหลายรุ่นให้ผู้ใช้งานเลือกซื้ออีกด้วย

แน่นอนว่า การซื้ออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกชนิด สิ่งแรกที่ทุกคนควรจะทราบ คือ "ขั้นตอนวิธีการเลือก" เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้มีระบบและเทคโนโลยีที่ซับซ้อน หากเราไม่เข้าใจการทำงานของมัน ก็ยากที่จะซื้อสินค้าได้ตรงตามความต้องการของตัวเอง นอกจากนี้ อีกหนึ่งสิ่งที่ทีมงานของเราไม่พลาดก็คือ "10 อันดับ หูฟัง Bluetooth ยอดฮิตขายดี" ที่ผ่านการเปรียบเทียบทั้งในเรื่องของราคา คุณสมบัติ และรีวิว มาให้ทุกคนได้ศึกษากัน เพื่อให้ได้สามารถตัดสินใจเลือกรุ่นที่มีคุณภาพมากที่สุดไปใช้งานได้อย่างง่ายดายขึ้น จะมีเนื้อหาอย่างไรบ้างนั้น ตามมาอ่านกันเลยค่ะ!

อีกหนึ่งรุ่นที่เน้นการสนทนามากกว่าฟังเพลง คุณสมบัติของรุ่นนี้จึงมีฟังก์ชันคุยและฟังผ่านลำโพงโดยไม่ตัดเสียงรอบตัว มาพร้อมรีโมทคอนโทรลกล้อง ช่วยให้คุณถ่ายเซลฟี่ได้โดยไม่ต้องจับสมาร์ทโฟน ดีไซน์เก๋มีคลิปหนีบกับปกเสื้อ ทำให้คุณดูภูมิฐานมากกว่ารุ่นอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีเทคโนโลยี NFC สามารถเชื่อมต่อกับโทรศัพท์ได้ง่ายเพียงแค่สัมผัส

หลายคนที่ใช้จริงต่างชื่นชอบในประสิทธิภาพ คุณภาพเสียงดี เชื่อมต่อง่าย สัญญาณค่อนข้างเสถียร และแบตเตอรี่ทนทาน เหมาะกับการใช้เพื่อสนทนาธุรกิจ

สำหรับรุ่นนี้มีคุณสมบัติเด่นมากมายเลยค่ะ เช่น เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ด้วย NFC และ Bluetooth (4.2), แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ถึง 8 ชั่วโมง, สตรีมเพลงได้คุณภาพเสียงชัดเจนด้วยไดรเวอร์ 9 มม., สามารถรับสายและพูดคุยโทรศัพท์ได้, ดีไซน์รับกับสรีระใบหู ช่วยให้ใส่สบาย และมีสีให้เลือกมากมาย

ด้านการใช้งานของรุ่นนี้สามารถตอบสนองความถี่ 20Hz – 20,000Hz จึงเก็บเสียงเบสได้อย่างพอเหมาะ ฟังเพลงได้หลากหลายแนว เน้นการใช้งานพื้นฐาน อย่างไรก็ตามยัง มีข้อเสียอยู่บ้าง คือ ตัดเสียงรบกวนได้ไม่ค่อยดีและสายหูฟังค่อนข้างจะบางไป

รุ่นนี้จะเน้นดีไซน์เรียบหรูน้ำหนักเบา ทำให้การใช้งานของคุณสะดวกมากขึ้น มาพร้อมกับเสียงแบบ EXTRA BASS™ ที่ช่วยให้การฟังเพลงสนุกและเร้าใจมากขึ้น อีกทั้งยังมีรีโมทและไมค์ช่วยให้การสนทนาและฟังเพลงมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมด้วยแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง

สำหรับผลลัพธ์การใช้จริง รุ่นนี้ตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 4 Hz-24,000 Hz เสียงเบสจึงหนักแน่น ใครที่ชอบฟังเพลง Rock, EDM หรือ Hip-Hop อย่าพลาดรุ่นนี้เชียวค่ะ

ใครที่ตามหาหูฟังที่แบตเตอรี่อึด ใช้งานได้ข้ามวันข้ามคืน รุ่นนี้ตอบโจทย์คุณได้ดีเลยค่ะ เพราะสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องถึง 20 ชั่วโมง แถมยังมีดีไซน์ที่รองรับการฟังเพลงขณะเดินทาง และมาพร้อมกับคุณสมบัติอื่น ๆ เช่น เชื่อมต่อด้วย Bluetooth และ NFC, เสียงไดนามิกด้วยไดรเวอร์ขนาด 9 มม. และระบบสั่นเมื่อสายเข้า ช่วยให้คุณไม่พลาดการสนทนากับสายสำคัญ

มีความสามารถในการตอบสนองความถี่เริ่มตั้งแต่ 8 Hz -22,000 Hz เสียงเบสจึงค่อนข้างหนักแน่น เพิ่มอรรถรสในการฟังเพลงให้เร้าใจมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้ไม่กันเหงื่อหรือละอองน้ำเล็ก ๆ นะคะ ใครที่จะใช้ออกกำลังกายอาจต้องมองหารุ่นอื่น

รุ่นนี้เหมาะสำหรับการใส่ขณะออกกำลังกาย ด้วยดีไซน์ที่กะทัดรัด, น้ำหนักเบาและกระชับเข้ากับรูหูพอดี จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการเคลื่อนไหว มาพร้อมกับคุณสมบัติเด่น ๆ มากมาย เช่น เชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ง่ายด้วย NFC, โครงสร้างแบบ Open ทำให้คุณได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นรอบตัว แต่ช่วยลดเสียงที่รบกวน, กันน้ำระดับ IPX4 และรองรับการโทรแฮนด์ฟรี

นอกจากนี้ แบตเตอรี่ยังอึดถึง 8 ชั่วโมง และหลายคนที่ใช้ต่างชื่นชอบในคุณภาพเสียงที่สามารถตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 20 Hz – 20,000 Hz แถมรุ่นนี้ยังมีหลายสีสันอีกด้วย

หูฟังที่คุณสามารถพกพาไปกับคุณได้ทุกที่เหมาะกับคนที่ชอบเดินทาง ทำกิจกรรม Outdoor ทั้งเดินป่า ไปทะเละ เพราะหูฟัง มี Memory 4GB ในตัว สามารถกันน้ำเค็มได้ระดับ IPX5 และหากให้ชุดหูฟังร่วมด้วยก็จะกันน้ำได้ถึงระดับ IPX8 อีกทั้งป้องกันฝุ่นได้ระดับ IP6X และใช้แทนแฮนด์ฟรีได้อีกด้วย

พร้อมเพิ่มความปลอดภัยในการใช้ด้วยโหมด Ambient ช่วยรับเสียงจากภายนอก มี Bluetooth และระบบ NFC ที่ช่วยให้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ สะดวกมากขึ้น และมีแบตเตอรี่ที่เล่นต่อเนื่องได้ยาวนานถึง 12 ชั่วโมง ข้อเสียคือ ไม่มีตัวตัดเสียงรบกวน

ใครมีงบค่อนข้างสูง รุ่นนี้น่าสนทีเดียวค่ะ ด้วยดีไซน์ที่กะทัดรัด สวมใส่ได้กระชับ ซึ่งมาพร้อมไดรเวอร์ขนาด 6 มม. ให้เสียงที่ละเอียดไพเราะทุกย่านเสียง ใช้ดูหนัง ดูทีวีก็ให้เสียงสมจริง และใช้เทคโนโลยีเซ็นเซอร์เสียงรบกวนแบบคู่ หมดปัญหาจากเสียงกวนใจ แต่ไม่ต้องกังวลว่าคุณจะพลาดเสียงจากภายนอก เพราะมีเทคโนโลยี Sense Engine เพื่อปรับแต่งเสียงตามแบบของคุณ

แบตเตอรี่ใช้งานได้นานสูงสุดถึง 24 ชั่วโมง เลยหากใช้งานร่วมกับกล่องแม่เหล็กพกพาดีไซน์หรูสำหรับชาร์จ ขาดอย่างเดียวคือ รุ่นนี้ไม่กันน้ำ นอกนั้นถือได้ว่าเป็นหูฟังที่สมบูรณ์แบบตัวหนึ่งเลยค่ะ

หูฟังที่หน้าตาเป็นเอกลักษณ์รุ่นนี้มีคุณสมบัติการใช้งานโดดเด่นไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นโหมดที่รองรับทั้งการใช้งานแบบป้องกันเสียงรบกวนและได้ยินเสียงรอบข้าง พร้อมกับเชื่อมต่อได้ง่ายด้วย NFC และมีดีไซน์เหมาะกับการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ ยังกันน้ำระดับ IPX4 ได้ สนทนาโทรศัพท์ก็ได้ และใช้งานได้อย่างต่อเนื่องถึง 9 ชั่วโมง เหมาะกับการฟังเพลงขณะเดินทางหรือออกกำลังกาย

ผู้ใชงานจริงต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า คุณภาพเสียงดี ตอบสนองความถี่ได้ตั้งแต่ 20Hz – 20,000Hz มีน้ำหนักเบา และเกาะยึดหูได้กระชับ จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไมหลายคนถึงเลือกซื้อ

มาถึงอันดับ 1 ยอดฮิตกันแล้ว รุ่นนี้นอกจากจะเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ได้แล้ว ยังมีระบบ NFC ที่ทำให้การเชื่อมต่อรวดเร็วขึ้น มาพร้อมกับเทคโนโลยี Digital Noise Cancelling ปิดกั้นเสียงรบกวนอื่น ๆ ขณะเดียวกันก็มีโหมดเสียงรอบข้าง ให้คุณด้วย อีกทั้งยังกันเหงื่อได้ถึงระดับ IPX4 เหมาะกับการใส่ออกกำลังกาย โดยสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่องถึง 6 ชั่วโมง และยังรับสายโทรศัพท์ได้อีกด้วย

มาดูคุณภาพเสียงของรุ่นนี้กันบ้าง มีเทคโนโลยี EXTRA BASS™ ทำให้เสียงต่ำหนักแน่น กระตุ้นให้กระตือรือร้น หลายคนที่ใช้จริงต่างชื่นชอบในคุณภาพ แม้ตัว Controller ค่อนข้างหนักไปหน่อย ทำให้ตัวหูฟังไม่กระชับกับใบหูเท่าที่ควร แต่ถ้าดูฟังก์ชั่นแล้ว รุ่นนี้ถือว่าครบมาก ๆ ค่ะ

หูฟังขนาดกะทัดรัดรุ่นนี้ นอกจากจะเหมาะกับการใช้สนทนาโทรศัพท์แล้ว ยังนำไปใช้ฟังเพลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะใช้ Dynamic Driver ขนาด 7.2 มม. ให้คุณภาพเสียงที่คมชัด คุณภาพเบสก็เบสหนักระดับ Hi-Fi แถมยังควบคุมการฟังเพลง โทรเข้า-ออกได้อย่างง่าย ด้วยระบบ Smart Touch รวมถึงรูปทรงก็ปรับให้มีความเหลี่ยมมากขึ้นเพื่อการหยิบจับ และสวมใส่ได้อย่างกระชับมากขึ้นนั่นเอง

และด้วยความที่ราคาแสนจะเป็นมิตรต่อกระเป๋าตังค์ ดีไซน์เรียบง่าย แถมกันน้ำได้ถึง IPX4 ที่จะใส่ออกวิ่งจนเหงื่อท่วมก็ไม่ต้องกังวล จึงทำให้ผู้ใช้หลายคนนิยมซื้อไว้เป็นหูฟังสำรองด้วย เมื่อใช้งานได้คุ้มค่าอย่างนี้ ต้องรีบไปจับจองกันแล้วล่ะค่ะ

ล้ำขึ้นมาอีกขั้นเลยค่ะกับหูฟังเชื่อมเร็ว คุณภาพเสียงสเถียรมากรุ่นนี้ ที่ใช้การสั่งการด้วยระบบสัมผัส มีไมโครโฟนอยู่ที่ปลายก้านหูฟังข้างละ 1 ตัว พร้อมด้วยระบบตัดเสียงรบกวนขณะสนทนา (Noise Reduction for Calls) ทำให้มีความคมชัดยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังใช้ Eargel เข้ามาช่วยเพิ่มความกระชับได้ดี ไม่หลุดออกระหว่างเคลื่อนไหว แถมยังกันน้ำในระดับ IP54 ซึ่งกันน้ำกระเด็นและเหงื่อได้สบายมาก

จุดเด่นที่น่าสนใจอีกหนึ่งข้อ คือการรองรับแนวเพลงได้ครอบคลุมเกือบทุกแนว ให้เบสอินดี้มีมวล อิมแพ็คพอดีไม่หนักเกินไป เวทีเสียงก็อยู่ในระดับกลาง ซึ่งเมื่อทั้งหมดรวมเข้าด้วยกันก็ทำให้เสียงโปร่ง ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ฟังง่ายมากขึ้นค่ะ

หลังจากที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นาน หูฟังรุ่นอัปเกรดจากซัมซุงรุ่นนี้ ก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม เพราะมีฟีเจอร์เด็ดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นลำโพง 2 Way Dynamic ที่ Woofer และ Tweeter แยกจากกัน เพื่อให้แยกเสียงสูง-ต่ำได้ละเอียดขึ้น เพิ่มไมค์จากเดิมมากขึ้นเป็นข้างละ 3 ตัว ควบคุมด้วย Ambient Sound ซึ่งช่วยให้เราได้ยินเสียงรอบข้างและเพิ่มความระมัดระวังได้มากขึ้นด้วย

และก็ต้องยอมรับว่า ทางซัมซุงปรับปรุงเรื่องแบตเตอรี่ได้ดีมาก เพราะชาร์จเพียง 9 นาทีก็สามารถฟังได้ถึง 1 ชม. การใช้งานก็แสนง่าย เพียงแค่เปิดฝากล่องก็เชื่อมต่อได้ทันที แถมยังรองรับ Android ทุกค่าย ส่วนระบบ iOS เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Buds+ มาไว้ก็ใช้ได้เช่นกันค่ะ

เป็นหูฟังแบบ In-Ear ที่อัพเกรดมาจากรุ่น Tune 110 ยอดนิยม แม้ว่าจะมีน้ำหนักของสายเชื่อมที่เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย โดยมีน้ำหนักรวมที่ 16.2 g แต่เพิ่มประสิทธิภาพในตัวฟังก์ชันเชื่อมต่อไร้สาย ให้ใช้งานได้เสถียรและสะดวกมากขึ้น ส่วนพลังเสียงโดยเฉพาะเบสนั้น ยังหนักแน่นและดังชัดเหมือนเดิม รวมถึงยังเป็นรุ่นที่นิยมใช้ในการฟังเพลงมากกว่าใช้สนทนาด้วยค่ะ

สายคล้องคอจะมีขนาดยาวกว่ารุ่นอื่น ๆ ส่วนปุ่มปรับการทำงานจะอยู่บนสายตำแหน่งด้านข้างของผู้ใช้ กดใช้งานง่ายไม่ยุ่งยาก เชื่อมต่อด้วย Bluetooth 4.0 การชาร์จใน 2 ชม. จะสามารถฟังดนตรีได้ต่อเนื่องยาวนานถึง 6 ชม. และที่น่าสนใจอีกอย่าง คือ มีสีโทนพาสเทลให้สาว ๆ ได้เลือกใช้กันด้วยค่ะ

หูฟังคุณภาพที่มีดีไซน์หรูหราน่าใช้งาน โดยใช้ไมโครโฟนรวม 4 ตัวเพื่อช่วยตัดเสียงลมและเสียงรบกวนต่าง ๆ ออกได้ดี แถมเพิ่มความปลอดภัยให้ด้วยระบบพิเศษอย่าง Hearthrough ที่ช่วยดูดเสียงภายนอกและปรับให้คุณยังคงได้ยินเสียงอยู่โดยไม่ต้องถอดหูฟัง สามารถปรับ EQ และสั่งงานได้ด้วยเสียงโดยเชื่อมต่อผ่านแอป Jabra Sound+ อีกทั้งยังชาร์จเต็มได้เร็วภายใน 2 ชม.

นอกจากนี้ การให้เสียงเบสของรุ่นนี้ต่างจากรุ่นอื่นพอสมควร เพราะจะเน้นที่ Upper Bass มากกว่า โฟกัสที่เสียงเป็นหลัก ให้ย่านเสียงกลาง ทำให้แยกเสียงดนตรีได้ชัดมากขึ้น โดยรวมแล้วหูฟังรุ่นนี้ก็เป็นอีกความคุ้มค่าที่น่าเลือกซื้อไม่น้อยเลยค่ะ

เป็นตัวท็อปที่ตอกย้ำการกลับมาของ Sony ได้เต็มคุณภาพมาก เพราะรุ่นนี้จัดหนักด้วยฟีเจอร์ที่คุ้มค่าน่าสนใจ ทั้งการใช้ Dynamic Driver ขนาด 6 mm ระบบ Noise Cancelling ช่วยตัดเสียงรบกวนทำให้ทั้งการฟังเพลงหรือการสนทนามีความคมชัดลื่นไหลกว่าเดิม ทั้งยังปรับแต่ง EQ ได้สะดวกตามใจ โดยทั้งหมดควบคุมได้ด้วยระบบการสั่งงานด้วยเสียงที่เชื่อมต่อผ่านทางแอป "Sony Headphones Connect"

นอกจากนี้ โครงสร้างหูฟังยังออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ทำให้สวมใส่สบายมากขึ้น เชื่อมต่อก็ง่ายและรวดเร็วด้วยระบบ NFC ที่สำคัญใครที่ชอบฟังเพลงจังหวะหนัก ๆ ขอบอกว่าหูฟังรุ่นนี้ก็ตอบโจทย์มาก เพราะมวลเบสมาเต็ม ไม่กระแทกมากเกินไป รับรองว่าฟังสนุกแน่นอน

ต้องยกนิ้วให้เลยกับหูฟังสุดล้ำจากค่าย BOSE ที่พกเอาเทคโนโลยี Wireless Noise Cancelling มาใช้ตัดเสียงรบกวนได้น่าประทับใจสุด ๆ ช่วยให้เราฟังเพลงได้เต็มอรรถรส ที่คาดศีรษะทำจาก Alcantara เกรดดี สวมใส่สบาย ด้านซ้ายหูฟังมีปุ่ม Action Button สำหรับกดแล้วสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant ที่สั่งอ่านข้อความ ตั้งนาฬิกาปลุก หรือโทรเข้าออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แต่ถ้าเป็นสมาร์ทโฟนระบบ  iOS ปุ่มดังกล่าวจะมีไว้สำหรับปรับระดับ Noise Cancelling ส่วนในเรื่องเบสก็ให้เสียงอิ่มพอดี ย่านเสียงกว้าง มีมิติมากขึ้น และแม้ว่าจะมีราคาค่อนข้างสูง แต่หากมองในแง่ของประสิทธิภาพที่จัดหนักจัดเต็มแล้วล่ะก็ ถือเป็นหูฟังอีกหนึ่งรุ่นที่คุ้มค่าน่าใช้งานทีเดียวค่ะ

อีกหนึ่งหูฟังของ Plantronics ที่ดีไซน์ออกมาได้คลาสสิกทันสมัยมาก ทั้งยังมีน้ำหนักเบาเพียง 240 g สวมใส่ได้สบายไม่กดทับศีรษะ สายคาดปรับระดับเป็นเหล็กแข็งแรง ป้องกันการบิดงอ รวมถึงมีตัวอักษรบอกด้านซ้าย-ขวาชัดเจน และอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ครองใจผู้ใช้ก็คือ แบตเตอรี่ที่ชาร์จด้วยสาย Micro USB 2.0 / สายแจ็ค 3.5 mm เพียงครั้งเดียว แต่สามารถใช้งานได้นานตลอดทั้งวัน

นอกจากนี้ ยังได้รับการยอมรับในเรื่องคุณภาพเสียงที่เก็บได้ทุกรายละเอียด คมชัดทุกจังหวะ ให้การฟังเพลงได้รับอรรถรสอย่างเต็มที่ โดยการใช้งานควบคู่ไปกับแอป BackBeat ยังช่วยให้เราปรับ EQ ตามสไตล์ที่ชอบได้ถึง 3 แบบ (Bass-boost, Balance, เสียงใส) อีกด้วย

หากใครกำลังมองหาหูฟังสุดเท่แนวสปอร์ต รุ่นนี้ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ เพราะเป็นหูฟังซิลิโคนที่ตอบโจทย์การออกกำลังกาย ใช้ได้ทั้งชายและหญิง โดยจุดเด่นของรุ่นนี้คือ เคสแบตเตอรี่ที่มีความจุ 850mAh ชาร์จได้ 2 รอบ โดย 1 รอบใช้ได้นานถึง 10 ชม. พร้อมกับฟังก์ชัน TalkThru ที่กดปุ่มหูฟังซ้าย 1 ครั้งก็จะลดเสียงเพลง แล้วดูดเสียงรอบข้างให้เราได้ยินชัดขึ้น เพื่อให้คุยกับคนรอบข้างไปพร้อม ๆ กันได้ค่ะ

การใช้งานก็ง่าย เพราะสามารถสั่งงานได้ด้วย Voice Assistant ที่รองรับทั้ง Android และ iOS การกันน้ำอยู่ในระดับ IPX7 สามารถกันเหงื่อกันฝนได้ดีเยี่ยม ให้เสียงเบสทุ้ม รายละเอียดคมชัด เสียงแหลมไม่มากจนเกินไป เรียกได้ว่ารองรับการฟังเพลงหลากหลายแนวและคุ้มค่ามากจริง ๆ ค่ะ